จระเข้ยักษ์โบราณ พูรัสซอรัส ที่มีแรงกัดทรงพลังกว่าทีเร็กซ์ 2 เท่า
วันนี้เราจะมานำเสนอบทความเกี่ยวกับเรื่องจระเข้โบราณที่มีฟันเหยินแทรกแซงแหลมคมเต็มปาก
ต้องยอมรับนะครับว่าจระเข้เนี่ยเป็นสัตว์ยุคโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันต้นตระกูลของมันที่เป็นจระเข้ยักษ์ฟันเหยินเต็มปากตัวใหญ่โตมโหฬารอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วแต่ก็ยังมีเชื้อสายพันธุ์จระเข้ที่หลงเหลือสืบพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนะครับเดี๋ยวเรามาเข้ารายละเอียดเลยดีกว่าครับ
ไคแมนยักษ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ พูรัสซอรัส (Purussaurus) เป็นนักล่าในยุคไมโอซีน อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำในทวีปอเมริกาใต้ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีแรงกัดมากที่สุดของสัตว์ที่เคยปรากฏมาบนโลก
มีสิ่งมีชีวิตเหนือจินตนาการของเราจำนวนมากที่อาศัยอยู่บนโลกนี้มานานก่อนที่มนุษย์จะเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็คือ พูรัสซอรัส จระเข้ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีลำตัวยาวกว่ารถโรงเรียน และแข็งแกร่งกว่าทีเร็กซ์
พูรัสซอรัสมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Purussaurus brasiliensis จระเข้ยักษ์โบราณที่ยาวถึง 13 เมตรเมื่อโตเต็มวัยและมีน้ำหนักมาถึง 8,210 กิโลกรัม พวกมันกินเนื้อวันละประมาณ 40 กิโลกรัมเป็นประจำ
สัตว์โบราณชนิดนี้ออกล่าเหยื่อบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำในทวีปอเมริกาใต้ มันจะพุ่งตัวขึ้นจากน้ำเพื่อตะครุบเหยื่อ ขากรรไกรของมันมีแรงกัดมหาศาลถึง 5.3 เมตริกตัน ซึ่งแข็งแกร่งกว่าไทแรนโนซอรัส เรกซ์ถึง 2 เท่า
การค้นพบพูรัสซอรัส
Purussaurus brasiliensis ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการตามการค้นพบในป่าฝนของบราซิล แม้ว่ารูปร่างของมันจะคล้ายกับจระเข้ แต่เนื่องจากมันมีท้องที่หุ้มเกราะหนาจึงถูกจัดอยู่ในสายตระกูลไคเมน (Caiman) ซึ่งเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับจระเข้
ซากฟอสซิลพูรัสซอรัสตัวแรกถูกค้นพบในช่วงปลายทศวรรษ 1800 โดย Joao Barbosa Rodrigues นักวิจัยชาวบราซิล ในระหว่างสายพันธุ์นี้ถูกค้นพบ มีการตั้งชื่อ และลงบันทึกทางประวัติศาสตร์แล้ว แต่ก็ยังมีการคาดเดามากมายเกี่ยวกับขนาดและนิสัยของมัน โชคดีที่มีการค้นพบกะโหลกศีรษะขนาดใหญ่ของมัน
ต่อมามีการค้นพบซากกระดูกชิ้นส่วนอื่นเพิ่มขึ้นตามเรื่อย ๆ ทั้งในประเทศเปรู โคลอมเบีย ปานามา และเวเนซุเอลา ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าพูรัสซอรัสเป็นสายพันธุ์จระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีความยาวอยู่ที่ 13 เมตรและน้ำหนัก 8.4 ตัน
จนกระทั่งไม่นานมานี้ มีรายงานการค้นพบรอยกัดขนาดใหญ่ปรากฎอยู่บนกระดูกของสลอธที่มีอายุ 13 ล้านปี จากการศึกษาพบว่ารอยกัดนั้นน่าจะเกิดจากการโจมตีของพูรัสซอรัส เพราะในบรรดาจระเข้โบราณ 6 สายพันธุ์ในภูมิภาคนี้ไม่มีสายพันธุ์ไหนที่มีฟันใหญ่เท่ามันอีกแล้ว
ทำไม Purussaurus brasiliensis จึงเป็นนักล่าที่น่ากลัวที่สุดในยุคนั้น
Tito Aureliano และทีมงานของเขาเปิดเผยข้อมูลที่ค้นพบเกี่ยวกับแรงกัด ลักษณะรูปร่าง และความเป็นอยู่ของพูรัสซอรัส นักบรรพชีวินวิทยาชาวบราซิลแห่งมหาวิทยาลัย Campinas ระบุว่าจระเข้ยักษ์โบราณสายพันธุ์นี้มีแรงกัดที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาสัตว์สี่ขาที่เคยปรากฏบนโลก
จากข้อมูลในวารสาร Public Library of Sciences มีการวิเคราะห์แรงกัดของพูรัสซอรัส พบว่ามีค่าอยู่ที่ 69,000 นิวตันหรือ 15,512 ปอนด์ ซึ่งมากกว่าแรงกัดของฉลามขาวถึง 20 เท่า จระเข้โบราณตัวนี้สามารถแอบซ่อนอยู่ในน้ำตื้นและบิดเหยื่อของมันให้จมลึกลงไป ด้วยขนาดที่ใหญ่มหึมาและการล่าเหยื่อที่ทรงพลัง ทำให้พูรัสซอรัสเป็นราชาในหมู่นักล่า
เมื่อพูรัสซอรัสโตเต็มวัย มันจะกินสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก มันสามารถคว้าเหยื่อที่มีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งตันได้อย่างง่ายดาย เมื่อเปรียบเทียบกับทีเร็กซ์ ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีชีวิตอยู่กันคนละยุค แต่เป็นที่แน่ชัดว่าแม้แต่ทีเร็กซ์ก็ไม่รอดจากแรงกัดมหาศาลและฟันที่แหลมคมของมัน
ทำไมPurussaurus ถึงสูญพันธุ์
อย่างไรก็ตามพูรัสซอรัสไม่ได้มีชีวิตยืนยาวอยู่บนโลกใบนี้ การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาก่อให้เกิดการแปรสัณฐานเป็นแนวเทือกเขาแอนดีส ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของสัตว์หลายสายพันธุ์
เนื่องจากพูรัสซอรัสต้องการเนื้อจำนวนมหาศาลเพื่อมีชีวิตอยู่รอด เมื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นเหยื่อเริ่มหายไปพร้อมกับภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา พูรัสซอรัสก็ไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต สุดท้ายพวกมันค่อย ๆ ล้มตายลงและสูญพันธุ์ไปในที่สุด
อ่านมาจนถึงวันสุดท้ายแล้วจระเข้ยักษ์โบราณพูรัสซอรัส ที่สูญพันธุ์ไปเนี่ยเพราะว่าไม่มีอาหารจะกินล่าเหยื่อ ไปล่ามาจนเหยื่อหายหมด โลกเปลี่ยนแปลงก็เลยอดอยากปากแห้ง ตายไปสูญพันธุ์ไปก็แค่นั้นแหละเป็นไปตามวัฏจักรวงจรของชีวิตสุดท้ายก็ง่อยกินแห้งตาย ตายซากสูญพันธุ์ไปในที่สุด