Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

ค้นพบกระดูกที่คาดว่าเป็น ‘มนุษย์ชาวยุโรปคนแรก’ อายุ 1.4 ล้านปีในสเปน


พบกระดูกที่คาดว่าเป็น ‘มนุษย์ชาวยุโรปคนแรก’ อายุ 1.4 ล้านปีในสเปน

นักบรรพชีวินวิทยาได้ค้นพบกระดูกขากรรไกรบนรวมฟันและกระดูกโหนกแก้มที่เชื่อกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ชาวยุโรปคนแรกที่มีอายุ 1.4 ล้านปี จากการตรวจสอบเบื้องต้นในเขตขุดค้นทางโบราณคดี ‘เซียร์รา เด อาตาปูเอร์กา’ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศสเปน

ก่อนการค้นพบนี้ มีการพบฟอสซิลโฮมินิดที่เก่าแก่ที่สุดในยูโรปนั้นมีอายุ 1.2 ล้านปี เมื่อปี 2008 ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าร่องรอยเหล่านี้แสดงให้เห็นการอพยพของบรรพบุรุษมนุษย์จากแอฟริกามายังทวีปยุโรปและช่วยให้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการของใบหน้ามนุษย์ในยุคปัจจุบัน

 “การขุดค้นที่ระดับ 7 ของไซต์ใน ‘ถ้ำซิมา เดล เอเลฟานเต (Sima del Elefante)’ ทำให้เราประหลาดใจด้วยการค้นพบที่พิเศษ นั่นคือบางส่วนของใบหน้ามนุษย์ที่มีอายุ 1.4 ล้านปี” มูลนิธิ Atapuerca ที่ดำเนินการขุดค้น กล่าวในแถลงการณ์ 

ทีมงานต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปว่ากระดูกนี้เป็นของมนุษย์สายพันธุ์ใด ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานราว 6-8 เดือน บางคนเชื่อว่าอาจเป็นกระดูกของ ‘Homo antecessor’ (ภาษาละตินแปลว่า “ผู้บุกเบิก”) ขณะที่บางคนแย้งว่านี่อาจเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษร่วมกันคนสุดท้ายระหว่าง ‘Homo sapiens’ และ ‘Neanderthals’ อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างแรกสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่กล้าเดินทางเสี่ยงภัยไปยังยุโรป

“เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าขากรรไกรบนชิ้นนี้จะเป็นของมนุษย์สายพันธุ์ใด และต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเปรียบเทียบพิจารณา” จอห์น ฮอว์ก (John Hawks) นักมานุษวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสันที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขุดค้นนี้กล่าวกับสำนักข่าว Live Science พร้อมเสริมว่า “ไม่ว่าพวกเขาจะตัดสินออกมาอย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เชื่อมโยงอยู่กับพื้นที่ที่มีหลักฐานพฤติกรรมต่าง ๆ เช่นการทำเครื่องมือหิน หรือการล่าสัตว์ที่บ่งบอกถึงความสามารถของบรรพบุรุษและญาติของเรา สำหรับผม นั่นคือส่วนสำคัญ”

โฮโมเซเปียนส์’ เป็นสมาชิกกลุ่มสุดท้ายของ ‘โฮมินิด’ ที่ออกจากทวีปแอฟริกาเมื่อราว 60,000 ปีก่อน (บ้างก็ว่าราว 200,000 ถึง 100,000 ปีก่อน) และพวกเขาน่าจะเข้าสู่ทวีปยุโรปเมื่อประมาณ 54,000 ถึง 45,000 ปีก่อน ซึ่งเข้ามาเทนที่ ‘นีแอนเดอร์ทัล’ อย่างรวดเร็วจนถูกผลักให้สูญพันธุ์ไปเมื่อ 40,000 ปีก่อน ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างร้อนแรงในวงการวิทยาศาสตร์ เพราะความสับสนและซับซ้อนของหลักฐาน

Photograph by Susana Santamaria

เชื้อราสยองเติบโตในตัวแมลงวันตัวเมีย กัดกินพวกมันจากภายใน แมลงวันตาย เชื้อราดังกล่าวยังล่อให้ แมลงวันตัวผู้เข้ามาผสมพันธุ์กับซากแมลงวันดังกล่าว เพื่อแพร่พันธุ์ต่ออีกต่างหาก


เชื้อราสยองเติบโตในตัวแมลงวันตัวเมีย กัดกินพวกมันจากภายใน แมลงวันตาย เชื้อราดังกล่าวยังล่อให้ แมลงวันตัวผู้เข้ามาผสมพันธุ์กับซากแมลงวันดังกล่าว เพื่อแพร่พันธุ์ต่ออีกต่างหาก

มันมีคำพูดเล่นๆ กันว่า "โลกของแมลงนั้นมันเถื่อน" เพราะสิ่งมีชีวิตในตระกูลนี้ หลายๆ ครั้งก็มักจะมีชีวิตที่สุดแสนจะชวนสยอง หากโชคร้ายมันอาจจะถูกแตนเจาะหลังวางไข่ใส่ หรือมีพยาธิที่ตัวยาวกว่ามันอีกเข้ามาอาศัยในตัวได้

ล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนก็เพิ่งทำการศึกษาเรื่องราวสุดสยองของโลกแห่งแมลงอีกครั้งแล้ว เมื่อพวกเขาทำการศึกษาเชื้อราที่ชื่อว่า Entomophthora muscae และค้นพบว่า

เชื้อราชนิดนี้ ด้วยเหตุผลบางอย่างจะเติบโตในตัวแมลงวันตัวเมีย กัดกินพวกมันจากภายใน แถมพอแมลงวันตายไป เชื้อราดังกล่าวยังล่อให้ แมลงวันตัวผู้เข้ามาผสมพันธุ์กับซากแมลงวันดังกล่าว เพื่อแพร่พันธุ์ต่ออีกต่างหาก

โดยในการทดลองและสำรวจ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าหลังจากที่เชื้อรา E. muscae เข้าไปติดแมลงวันบ้านตัวเมีย มันจะใช้เวลาราวๆ 6 วันในการเข้าควบคุมพฤติกรรมของแมลงวันดังกล่าวราวซอมบี้

ก่อนที่จะพาพวกมันไปตายตามจุดที่มองเห็นได้ง่ายอย่างบนต้นไม้หรือกำแพง และเริ่มปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า sesquiterpenes ล่อแมลงตัวผู้ให้มาผสมพันธุ์กับซากแมลงวันที่ตายไปแล้ว

เพื่อที่พวกมันจะติดไปกับแมลงวันตัวผู้ ที่จะขยายพันธุ์แพร่เชื้อไปยังตัวเมียอีกหลายตัวก่อนจะตายไปเพราะโดนกินจากภายในในที่สุด

แถมราวกับเรื่องด้านบน จะยังสยองไม่พอ นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบอีกด้วยว่า ยิ่งแมลงวันตัวเมียตายไปนานแค่ไหน สารจากเชื้อราดังกล่าวก็จะยิ่ง "มีเสน่ห์" ต่อแมลงวันตัวผู้มากขึ้นอีกต่างหาก

นี่นับว่าเป็นอีกการวิจัยที่น่าจับตาอย่างมากเลย เพราะมันไม่เพียงแต่จะเสริมความรู้เกี่ยวกับโลกของแมลงและเชื้อราเท่านั้น แต่ความรู้ใหม่นี้ ยังอาจนำไปสู่วิธีควบคุมประชากรแมลงวันที่มีประสิทธิภาพขึ้นในอนาคตเลยด้วย

แม้ว่าวิธีการดังกล่าวอาจจะเป็นดั่งฝันร้ายสำหรับแมลงวันเลยก็ตาม

news.ku.dk/all_news/2022/07/zombie-fly-fungus-lures-healthy-male-flies-to-mate-with-female-corpses/

www.sciencedaily.com/releases/2022/07/220715105806.htm

www.futurity.org/zombie-fungus-mating-houseflies-2767722/

รายการบล็อกของฉัน