Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

พบภาพเขียนรูปสัตว์ยักษ์ยุคน้ำแข็งอายุ 12,600 ปี ที่หน้าผาในป่าฝนแอมะซอน


นักโบราณคดีคาดว่าภาพเหล่านี้น่าจะถูกเขียนขึ้นเมื่อราว 11,800-12,600 ปีที่แล้ว

ทีมนักโบราณคดีจากโคลอมเบียและอังกฤษเปิดเผยการค้นพบภาพเขียนรูปสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์จำนวนหลายพันภาพบนหน้าผาที่ป่าฝนแอมะซอนในเขตประเทศโคลอมเบีย ซึ่งเผยให้เห็นมนุษย์ยุคแรก ๆ ในแถบนั้นใช้ชีวิตร่วมกับเหล่าสรรพสัตว์ยุคน้ำแข็ง

ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พบครั้งนี้ปรากฏอยู่บนหน้าผายาว 8 ไมล์ (ราว 12.8 กิโลเมตร) ที่มนุษย์ในยุคนั้นใช้อยู่อาศัย บริเวณตอนเหนือของป่าแอมะซอน นักโบราณคดีคาดว่าภาพเหล่านี้น่าจะถูกเขียนขึ้นเมื่อราว 11,800-12,600 ปีที่แล้วไปจนถึงช่วงปลายยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุด

คณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโคลอมเบีย มหาวิทยาลัยแอนติโอเกีย และมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ในอังกฤษค้นพบและศึกษาภาพเขียนเหล่านี้มาตั้งแต่ปี 2017 แต่เพิ่งจะเปิดเผยผลการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้

ภาพที่พบเป็นภาพเขียนสีแดงที่ได้จากดินแดงซึ่งเป็นดินเหนียวที่มีเหล็กออกไซด์ผสมอยู่ และมนุษย์โบราณในแถบอเมริกาใต้มักใช้ทำงานฝีมือ งานศิลปะ และใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ

นักวิจัยเชื่อว่าภาพเขียนที่พบจากซ้ายสุด ได้แก่ สลอธยักษ์ (a) ช้างโบราณ "มาสโตดอน" (b) สัตว์ในตระกูลอูฐ (c) ม้ายุคน้ำแข็ง (d และ e) สัตว์มีงวงที่มีกีบเท้า 3 กีบ (f)

โดยภาพเขียนที่พบมีรูปสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เช่น ช้างโบราณ "มาสโตดอน" (mastodon), สลอธยักษ์ (giant sloth), ม้ายุคน้ำแข็ง และสัตว์มีงวงที่มีกีบเท้า 3 กีบ รวมทั้งภาพสัตว์รูปทรงเหมือนงู กวาง และนก

ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พบครั้งนี้ปรากฏอยู่บนหน้าผายาว 12.8 กิโลเมตร ที่มนุษย์ในยุคนั้นใช้อยู่อาศัย บริเวณตอนเหนือของป่าแอมะซอน

นอกจากนี้ ยังพบภาพทรงเรขาคณิต ภาพรูปทรงมนุษย์ ภาพพิมพ์รูปมือ ตลอดจนภาพการล่าสัตว์

ศาสตราจารย์โฆเซ อิเรียร์เต นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ กล่าวว่า "ภาพเขียนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ล่าและมีชีวิตร่วมกับบรรดาสัตว์ยักษ์ ซึ่งปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้วได้อย่างไร"

ศาสตราจารย์โฆเซ อิเรียร์เต สันนิษฐานว่าภาพนี้อาจเป็นภาพของหญิงมีครรภ์ หรือผู้ชายจับมือกัน

ขณะที่ ดร.มาร์ก โรบินสัน นักวิจัยอีกคนจากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ ระบุว่า สิ่งที่พบเผยให้เห็นภาพที่ชัดเจนและน่าตื่นเต้นของชีวิตมนุษย์ยุคแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในแถบตะวันตกของผืนป่าแอมะซอนซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนแปลงมาเป็นป่าฝนเขตร้อนเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

นักวิจัยบอกว่าภาพนี้แสดงให้เห็นสัตว์คล้ายหมู กวาง หมา สัตว์ตระกูลเสือและแมว และมนุษย์ที่กำลังประกอบพิธีกรรม

เลเซอร์สำรวจ LIDAR เผยอารยธรรมน่าพิศวงแห่งอเมริกากลางก่อนยุคโคลัมบัส


เลเซอร์สำรวจ LIDAR เผยอารยธรรมน่าพิศวงแห่งอเมริกากลางก่อนยุคโคลัมบัส
เทคโนโลยีที่ช่วยในการค้นหาซากอารยธรรมกลางป่าลึก เช่นที่กัมพูชาและภูมิภาคอเมริกากลางในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับเลเซอร์สำรวจ LIDAR ซึ่งในปีนี้ได้สร้างผลงานเด่นอีกเช่นเคย โดยได้ช่วยให้นักโบราณคดีค้นพบซากศาสนสถานอารยธรรมมายาเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้

การสแกนด้วยเลเซอร์ทำให้พบโครงสร้างยกพื้นสูงขนาดใหญ่ รวมทั้งพบรูปสลักหมูป่าจากการขุดค้น
ที่มาของภาพ,TAKESHI INOMATA
คำบรรยายภาพ,
การสแกนด้วยเลเซอร์ทำให้พบโครงสร้างยกพื้นสูงขนาดใหญ่ รวมทั้งพบรูปสลักหมูป่าจากการขุดค้น

ร่องรอยของโครงสร้างยกพื้นสูงขนาดใหญ่และแท่นบูชา ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อราวหนึ่งพันปีก่อนคริสตกาล ถูกค้นพบในฟาร์มเลี้ยงวัวแห่งหนึ่งของเมืองทาบาสโก ประเทศเม็กซิโก ตรงบริเวณชายแดนที่ติดต่อกับประเทศกัวเตมาลา

แม้โครงสร้างของวิหารและแท่นประกอบพิธีกรรมนี้จะคล้ายคลึงกับศาสนสถานของชาวโอลเม็ก (Olmec) ซึ่งเป็นผู้สร้างอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ของอเมริกากลาง แต่ผลวิเคราะห์จากการขุดค้นชี้ว่า ไม่พบร่องรอยการก่อสร้างตามคำสั่งของชนชั้นนำ เช่นรูปสลักของราชาตามแบบอารยธรรมโอลเม็กแต่อย่างใด

นักโบราณคดีพบเพียงรูปสลักหินปูนเป็นตัวหมูป่าในวิหารแห่งนี้ ซึ่งชี้ว่าศาสนสถานดังกล่าวอาจสร้างขึ้นด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในชุมชนมากกว่า อันสะท้อนถึงสภาพสังคมที่ไม่แบ่งแยกชนชั้นมากนักในสมัยนั้น

ภาพสแกนด้วยเลเซอร์เผยให้เห็นการจัดเรียงตัวของหมู่บ้านคล้ายหน้าปัดนาฬิกาหรือดวงอาทิตย์

นอกจากนี้ การยิงเลเซอร์สำรวจ LIDAR จากเฮลิคอปเตอร์ ยังเผยให้เห็นร่องรอยของ "หมู่บ้านเนินดิน" ยุคโบราณ ที่สร้างขึ้นเมื่อราวศตวรรษที่ 13-17 ในป่าแอมะซอนอีกด้วย ซึ่งกลุ่มของหมู่บ้าน 36 แห่งนี้ ซุกซ่อนตัวอยู่ในดงไม้หนาทึบไร้ผู้คนอยู่อาศัย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐอากรีในประเทศบราซิล

ความพิเศษของกลุ่มหมู่บ้านที่ตั้งรายล้อมเนินดินจำนวนมาก ก็คือการจัดเรียงตัวเป็นวงกลมคล้ายหน้าปัดนาฬิกา โดยมีถนนคู่สองสายออกจากหมู่บ้านทางทิศเหนือและทิศใต้ เพื่อเชื่อมต่อการคมนาคมกับหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งถนนแบบนี้มองดูคล้ายกับเข็มบอกเวลาของนาฬิกาด้วย

หมู่บ้านบางแห่งมีถนนเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านหลายสาย ทำให้เมื่อมองจากที่สูงลงมาแล้ว จะดูคล้ายกับภาพลายเส้นรูปดวงอาทิตย์ฉายแสงไม่มีผิด
นักโบราณคดีเชื่อว่าการวางโครงสร้างของเครือข่ายหมู่บ้านเช่นนี้ สะท้อนแนวคิดทางจักรวาลวิทยาอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งนำมาใช้เป็นต้นแบบการปกครองสังคมที่ไม่มีลำดับชั้นอย่างชัดเจนของคนพื้นเมืองอเมริกากลาง ในยุคก่อนการมาถึงของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในช่วงศตวรรษที่ 15

รายการบล็อกของฉัน